ศูนย์พระเครื่องจตุคาม

ดูรายการวัตถุมงคล  

รุ่นเศรษฐีสยาม50
จัดสร้างโดย พระสมควร ถิรปัญโญ เจ้าอาวาส วัดสิริวัฒนาราม (วัดหัวตรุด) ม.1 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช


วัตถุประสงค์
- เพื่อนำเงินรายได้บำรุงวัด และ บูรณะอุโบสถ วัดสิริวัฒนาราม (วัดหัวตรุด)
- สร้างศาลาประดิษฐาน รูปเหมือน พระครูประภาส ภูมิสถิตย์
- สร้างศาลาแม่ไม้ตะเคียน 11 พฤษภาคม 2550 พิธีบวงสรวงขอมวลสารจากแม่ไม้ ตะเคียน ณ.วัดสิริวัฒนาราม (วัดหัวตรุด)

พิธีขอมวลสาร แม้ไม้ตะเคียน วัดหัวตรุด เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2550


รับมอบมวลสารจากพระอาจารย์ห้อง ธมฺผวโร รักษาการวัดเขาอ้อ, รับมวลสารจากพระอาจารย์ชม ติสฺสวํโส รักษาการเจ้าอาวาสวัดเจดีย์, รับมวลสารจาก พระมหาไมตรี วัดพระนคร, รับมวลสารจากพระราชธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร


ประวัติแม่ไม้ตะเคียน
ไม้ตะเคียน เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีความอาถรรพ์ มีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวกับความเร้นลับเกี่ยวกับภูตผีปีศาจ นางไม้ หรือเทพธิดา คือ ต้นไม้ตะเคียนจักสิ่งลึกลับที่สิงสถิตอยู่ เช่น นางไม้ เทพธิดา และภูตผีปีศาจและพิสูจน์ได้ยาก แต่มีอยู่จริงเพราะหากว่าไม่มีเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ ก็จะไม่มีใครพบเจอเลย แต่กลับตรงกันข้าม ผู้คนที่เคยพบประสบเจอ ได้เจอะเจอกับตัวเองมาแล้วก็มีเป็นจำนวนมาก วัดสิริวัฒนาราม หรือวัดหัวตรุด (สมัยเริ่มก่อตั้งชื่อวัดโพธาราม) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกจากสี่แยกหัวถนน เดินทางมาจากหัวถนนเดินรถมาตามเส้นทาง ถนนหัวถนน – ปากพนัง วัดจะตั้งอยู่ห่างหัวถนนประมาณ กม.ที่ 4 ข้ามสะพานหัวตรุด ประมาณ 50 เมตร จะถึงวัด วัดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ตรงข้ามสรรพากรจังหวัดนครศรีธรรมราช หมู่ที่ 1 ต.ท่าไร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ภายในวัดสิริวัฒนารามมีแม่ไม้ตะเคียนทองอยู่อายุประมาณ 1000 ปี เป็นต้นไม้ตะเคียนที่อาถรรพ์ และมีความศักดิ์สิทธิ์มาก มีประวัติความเป็นมาที่พิสดารแต่ก็พอสรุปได้สั้นๆ พอเข้าใจดังนี้ คือ ก่อนที่แม่ไม้ตะเคียนทองจะได้มาอยู่ภายในวัดสิริวัฒนาราม ในครั้งกระโน้นนั้น เรื่องมีอยู่ว่าในขณะนั้น นายแจ่ม ไม่ทราบนามสกุลได้ไปหาปลากับเพื่อนโดยใช้วิธีซุ่มปลา และก็ได้พลกับหัวแม่ไม้ตะเคียน เมื่อพบก็คลำดูก็เห็นว่ามีขนาดใหญ่มากทีแรกๆ ก็คิดอยากได้แม่ไม้ตะเคียนด้วยแต่เหตุที่ค่ำมืดเสียก่อนก็เลยไม่ได้ทำอะไร วันรุ่งเช้า นายแจ่มก็ชวนเพื่อนมากลุ่มหนึ่ง เผื่อว่าจะได้มาลากหรือขุดเอาไม้ขึ้นมาแต่ก็เกิดเรื่องประหลาดและอัศจรรย์ใจมาก หาแม่ไม้ที่พบเมื่อวานไม่เจอ พลบค่ำแล้วยังหาไม่เจอเลยกลับบ้าน กลับบ้านก็นอนคิดว่าทำอย่างไรดี พิจารณาแล้ว ก็ชวนเพื่อนๆ มาอีก คราวนี้พอมาถึงริมคลองก็เลยทำพิธีจุดเทียนธูป นั่งพนมมือขอบนบานสานกล่าวให้ได้พบเจอแม่ไม้ จากนั้นก็เกิดอัศจรรย์มากเหมือนมีอภินิหาริย์อะไรสักอย่างหนึ่งนั่นแหละ น้ำเกิดสั่นสะเทือนเดือดขึ้นคล้ายๆ น้ำพุเล็กๆ นายแจ่มกับพักพวกก็เลยลงไปคลำดู คราวนี้เจอหัวแม่ไม้ เมื่อเจอแล้วจากนั้น ก็นำเชือกมาผูกไว้ เอาหัวเชือกอีกด้านหนึ่งมาผูกกับต้นไม้ เผื่อไว้ว่า จะได้มาขุดในวันต่อไป แล้วก็เดินทางกลับบ้านในขณะนั้น ก็มีคนอยู่อีกกลุ่มหนึ่งกำลังจะหาไม้มาสร้างอุโบสถวัดสิริวัฒนาราม แล้วข่าวคราวเรื่องแม่ไม้ตะเคียนก็รู้ถึงหูพวกเขาเข้า คือว่า มีชาวอิสรามคนหนึ่งทราบเรื่องแม่ไม้ เพราะแกเป็นชาวประมง หาปลาอยู่ในสายคลองสวนหลวงสายคลองคันธงด้วย เมื่อได้ยินข่าวก็เลยมาบอกข่าวนี้กับคณะของนางเจ นางคล้ายและนางกราย เมื่อนางเจ นางคล้ายและนางกรายได้ทราบเรื่องเข้า ก็รีบเข้าไปหาพระครูประภาสภูมิสถิต หรือหลวงปู่นุ่มที่วัดสิริวัฒนารามทันที เมื่อคุยปรึกษาหารือกับหลวงปู่นุ่มเสร็จ ทั้งสามคนก็ได้ไปหาหลวงทุ่ม กับพระอีก 3 รูป ปรึกษากันแล้วก็ได้เดินทางเพื่อจะไปขุดเอาแม่ไม้ตะเคียนทองมาสร้างอุโบสถ เมื่อไปถึงก็พบกับแม่ไม้ตะเคียนทองก็ลงมือช่วยกันลาก แต่ไม้สำเร็จ วันที่สอง นางเจ นางคล้าย และนางกรายก็ชวนชาวบ้านมาเพิ่มอีก 20-30 คน พร้อมด้วย พระครูประภาสภูมิสถิต (หลวงปู่นุ่ม) เจ้าอาวาสวัดในสมัยนั้น วันนี้เมื่อมาถึงพระครูประภาสภูมิสถิต หรือหลวงปู่นุ่ม ก็ให้ชาวบ้านที่มาด้วยกันทั้งหมดจัดสถานที่เพื่อทำพิธีขอแม่ไม้ตะเคียนเพื่อที่จะได้เอาไปประดิษฐานอยู่ในวัดเมื่อทำพิธีเสร็จ ชาวบ้านก็ช่วยกันใช้วีธีป้องกันน้ำ หรือกั้นน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้ามาในเขตบริเวณแม่ไม้ตะเคียนทอง หลังจากนั้นน้ำก็เหือดแห้งแล้ว ชาวบ้านจึงช่วยกันลากแม่ไม้ตะเคียนทอง ปรากฏว่าลากขึ้นมาได้โดยง่ายมากเมื่อนำขึ้นมาจากคลองได้แล้ว จากนั้นชาวบ้านได้ช่วยกันลากมาตามถ่องหรือลากกันมาตามทุ่งนา สายคลองสวนหลวง คันธงจนมาถึงวัด เมื่อลากแม่ไม้ตะเคียนมาถึงวัดแล้ว หลวงปู่นุ่มก็ขอให้ช่วยกันจัดสถานที่เพื่อตั้งแม่ไม้ตะเคียน พระครูประภาสภูมิสถิต ก็ขอให้พระลูกวัดเจริญพระพุทธมนต์โดยสมบูรณ์ 1. หลังจากมาตั้งอยู่ในวัดได้ 1 วัน พอค่ำ นางแจ่ม ก็เกิดฝันขึ้นว่า มีเด็กสาวคนหนึ่ง มาร้องอยู่ใต้ถุนบ้าน พอได้ยินเสียงเรียก นายแจ่มก็ลงมาดูก็พบกับเด็กสาว แล้วก็กล่าวขึ้นว่า นายแจ่ม : มาทำไร? ปานี้ เด็กสาว : พ่อลุงเขาลากหนูมา ผ้าถุงขาดหมดแล้ว แลตะ นายแจ่ม : แล้วหนูจะเอาอะไรล่ะ เด็กสาว : แล้วหนูจะมาขอผ้าถุงพ่อลุงสักผืนได้มั้ย นายแจ่ม : ได้ เดียว เดียวจะไปเอาของเมียมาให้ หลังจากนั้นนายแจ่มก็ได้ตื่นจากฝัน พอรุ่งขึ้นนายแจ่มไปที่ตลาด ซื้อผ้าถุงมาให้แม่ไม้ตะเคียนทอง 2. ก่อนที่จะอยู่วัด ได้ยินว่ามีคนหนึ่ง ไม่ทราบชื่อ ฝันว่าให้เอาแม่ไม้ตะเคียนขึ้นมาแล้วจะช่วยสร้างอุโบสถ และพอแม่ไม้ตะเคียนทองมาอยู่ที่วัด ผู้คนก็มาสักการบูชาบนบานสานกล่าวขอในสิ่งต่างๆ มากมาย เช่น ขอให้ถูกหวยถูกเบอร์ก็ถูก ผู้คนที่แต่งงานนานแล้วแต่ไม่มีลูกมาขอก็สมปรารถนาทุกคน ขอให้หายจากโรคก็หาย ขอให้ประสบความสำเร็จก็ได้ดั่งที่ตั้งใจไว้ ข่าวคราวเหล่านี้ก็ได้แพร่กระจายไปปากต่อปากจากชาวบ้าน ทให้คนใกล้คนไกลหลั่งไหลมาสักการบูชาแม่ไม้ตะเคียนทอง และได้ถวายปัจจัยแก่วัด จนในที่สุดทำให้มีเงินทองมากพอที่จะสร้างอุโบสถ พระครูประภาสภูมิสถิต จึงนำเงินที่ผู้คนบริจาคมาสร้างอุโบสถจนสำเร็จในที่สุด หมายเหตุ : อุโบสถที่สร้างสำเร็จ เพราะได้รับเงินที่ผู้บริจาคโดยศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของแม่ไม้ตะเคียนทอง





พิธีกดพิมพ์นำฤกษ์ ณ วิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และพิธีเทวาภิเษก ณ ศาลหลักเมือง นครศรีธรรมราช


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกดพิมพ์นำฤกษ์






กำหนดรับวัตถุมงคล 29 กันยายน 2550 เป็นต้นไป